3. แนวทางการพัฒนาที่สำคัญ
ซิวในความทรงจำของข้าพเจ้า เป็นผู้ที่มารักษาด้วยสภาพหลังการเกิดอุบัติเหตุ ตกสระน้ำ โดย อปพร. นำส่งที่ห้องฉุกเฉิน ในตอนนั้นซิวเอะอะโวยวาย ไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา ผู้นำส่งเล่าให้ฟังว่าเดิมซิวเป็นหญิงสาวหน้าตาดี มีสภาพจิตใจที่เป็นปกติ แต่วันหนึ่งหลังกลับจากการทำงานที่ต่างจังหวัด สภาพจิตใจของซิวก็เปลี่ยนไปไม่ปกติเหมือนเดิม ใครๆก็บอกว่าซิวเป็น “ผีบ้า” เดินไปเรื่อยเปื่อย ชอบดุด่าคนที่พบเจอ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ถือสา แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะนำมารักษาตัว จนกระทั่งวันนี้แหละ ทางโรงพยาบาลจึงได้ส่งตัวซิวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุง และได้ส่งตัวกลับมารับยาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า แต่ซิวมารับยาไม่สม่ำเสมอ อาการจึงกำเริบเป็นระยะ ทางทีมงานบริการสุขภาพจิตจึงได้ทบทวนร่วมกับทางโรงพยาบาลสวนปรุง และเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยในเขตรับผิดชอบ ถึงแนวทางในการดูแลซิว
ทางโรงพยาบาลสวนปรุงได้รับซิวเข้าร่วมโครงการตัวยาชนิดใหม่สำหรับผู้ป่วยจิตเภทที่มีอาการซับซ้อน เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับยา ทำให้ซิวมีโอกาสได้รับยาตัวใหม่ที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น และได้รับความสะดวกรวดเร็วในการรับบริการแต่ละครั้ง แต่ในช่วงที่เข้าร่วมโครงการซิวมีอาการกำเริบเป็นระยะๆ ทางทีมงานบริการสุขภาพจิต ได้เข้าไปดูแลและได้มีการจัดรถรับส่งซิวไปยังโรงพยาบาลสวนปรุง พร้อมมีเจ้าหน้าที่ในการดูแลด้วยทุกครั้ง
ด้วยสายตาที่พร่ามัวจนแทบมองไม่เห็น ประกอบกับซิวอาศัยอยู่กับมารดาที่ชราภาพ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตและการมารับการรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุงของซิวเป็นอย่างมาก ทางทีมงานบริการสุขภาพจิต จึงได้ปรึกษาปัญหาของซิวกับโรงพยาบาลสวนปรุง ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์ให้เจ้าหน้าที่สามารถรับยาแทนซิวได้
ช่วงที่ซิวพักอยู่ที่บ้านได้มีการติดตามเยี่ยมบ้านร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยเป็นประจำทุกสัปดาห์ จนซิวรู้สึกคุ้นเคย และไว้วางใจ ยอมออกมานั่งพูดคุยกับทีมงาน แต่กับคนอื่นซึ่งไม่ใช่ทีมงานรวมถึงชาวบ้านแถวนั้นซิวจะไม่ยอมพูดคุยด้วยดี มักใช้คำพูดดุด่า ขับไล่ บางคืนก็จะกรีดร้องส่งเสียงดังจนละแวกบ้านซิวเห็นเป็นเรื่องปกติ และแล้วตาที่พร่ามัวของซิวก็บอดสนิททั้งสองข้าง ซิวยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น อาละวาด ทุบฝาบ้านจนทะลุ ทำร้ายร่างกายแม่ ทำให้ซิวต้องกลับไปนอนรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุงอีกครั้งนึง วันที่ซิวได้กลับจากโรงพยาบาลสวนปรุงทางทีมงานได้พาซิวไปตรวจตาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ต่อ แต่ความโชคร้ายของซิวยังไม่จบสิ้น เมื่อแพทย์บอกว่าตาของซิวไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป ทำให้ซิวรู้สึกแย่ บ่นอยากตาย บอกว่าอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ทางทีมงานได้ปลอบโยนให้กำลังใจ ดูแลเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอจนซิวมีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไปได้ ทางชาวบ้านและอบต.ได้ร่วมกันสร้างบ้านให้ซิวใหม่ และแล้วบุคคลที่ซิวรักและไว้วางใจมากที่สุดของซิวคือแม่ ก็ได้จากซิวไปอย่างไม่มีวันกลับ ซิวเหลือตัวคนเดียว ขาดคนดูแล มีแต่ญาติห่างๆ มีศักดิ์เป็นน้าสาวซึ่งปลูกบ้านอยู่ในบริเวณเดียวกันก็ไม่อยากที่จะมาดูแลซิว เพราะเคยถูกซิวอาละวาดและทำร้ายมาแล้ว ทางทีมงานได้เข้าไปพูดคุยสร้างความตระหนัก ความเข้าใจ ความรู้เรื่องโรคของซิวให้กับน้า ถึงการที่ซิวจะต้องมีผู้ดูแลต่อเนื่องเพื่อที่ซิวจะได้ไม่ขาดยา อาการทางจิตจะได้ไม่กำเริบ
หลังจากสิ้นสุดโครงการรับยา แต่ไม่ได้สิ้นสุดในการดูแลซิวของทีมงาน เราได้เห็นความก้าวหน้าในทางที่ดีของซิว คือสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ดูแลตนเองได้ในระดับหนึ่ง พูดคุยกับชาวบ้านได้ ไม่มีเอะอะอาละวาด รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ตัวซิวเองสามารถออกจากบ้านมารับยาที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้าได้ทุกเดือน โดยมีน้านำส่ง ชาวบ้านไม่มีทีท่าหวาดกลัวซิวอีกต่อไป
|